Connect with us

ข่าวเด่น

สุดล้ำ!! “โปรแกรม ACT” ทางเลือกการบำบัดยาเสพติดแก่เยาวชนฯ

หนังสือพิมพ์ชลบุรีโพสต์ออนไลน์ (www.chonburipostonline.com) โดยทีมข่าว “ โต บางแค ” โทร. 089 931 2068

ทางสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ร่วมกับ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพานำเสนอเกี่ยวกับ โปรแกรมการบำบัดแบบการยอมรับและสร้างพันธะสัญญา (Acceptance Commitment Therapy หรือ ACT) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างกระบวนการฝึกสติ การยอมรับ การสร้างพันธะสัญญา และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ที่ไม่ใช่แค่ลดอาการความผิดปกติ แต่ช่วยให้ผู้รับการบำบัดมีชีวิตที่มีคุณค่าและมีความหมายมากขึ้น เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจ เปลี่ยนไปจากวิธีการดั้งเดิมที่พยายามปิดกั้นช่องทาง ยับยั้งการเพิ่มจำนวน หยุดการแพร่กระจายหรือการขยายเครือข่ายของยาเสพติด ซึ่งจัดเป็นความพยายามจัดการกับปัจจัยภายนอกของกลุ่มเสี่ยง แตกต่างจากการทำงานครั้งนี้ ที่เป็นการแก้ปัญหาจากกระบวนการภายในของผู้ติดยาเสพติดหรือกลุ่มเสี่ยงโดยตรง โดยเป็นกระบวนการทำงานบนฐานงานวิจัย “ประสิทธิผลของโปรแกรมกลุ่มบำบัดแบบการยอมรับและสร้างพันธะสัญญาต่อเยาวชนที่ใช้สารเสพติด”

ผศ.ดร.จิณห์จุฑา ชัยเสนา ดาลลาส เครือข่ายนักวิจัย สวรส. สังกัดคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

ผศ.ดร.จิณห์จุฑา ชัยเสนา ดาลลาส เครือข่ายนักวิจัย สวรส. สังกัดคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้อธิบายถึงโปรแกรมการบำบัดแบบการยอมรับและสร้างพันธะสัญญา หรือโปรแกรม ACT นี้ ที่มีการลงมือทำผ่านกิจกรรมต่างๆ 8 กิจกรรมใน 4 สัปดาห์ โดยกิจกรรมต่างๆ เป็นการสร้างความยืดหยุ่นในชีวิตและความตั้งใจในการเลิกสารเสพติด และเป็นโปรแกรมที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางใจ บนแนวคิดการอยู่กับปัจจุบันขณะ การเปิดใจยอมรับ การปลดปล่อยความคิดยึดติด รับรู้ถึงตัวตนที่สังเกตเห็นหรือรู้ทันการเปลี่ยนแปลง รับรู้คุณค่าในตัวเองและใช้คุณค่านำการกระทำสู่เป้าหมายชีวิตแบบมีพันธะสัญญากับตนเอง ซึ่งโปรแกรม ACT เป็นทางเลือกในการบำบัดรักษาที่ช่วยให้เกิดการสร้างวิธีคิดวิธีมองชีวิตแบบใหม่ให้กับเยาวชน เพื่อให้เกิดการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างความเข้มแข็งในจิตใจ และเพิ่มความพร้อมในการออกไปใช้ชีวิตในสังคม โดยหลังจากการใช้โปรแกรม ACT กับเยาวชนที่เข้ารับการบำบัดสารเสพติดในโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง เขตพื้นที่ภาคตะวันออก พบว่า ความตั้งใจในการเลิกสารเสพติดและความยืดหยุ่นในชีวิตของกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุมต่างกันอย่างชัดเจน โดยกลุ่มทดลองมีความตั้งใจในการเลิกสารเสพติดและความยืดหยุ่นในชีวิตสูงขึ้นภายหลังการทดลอง ในขณะที่กลุ่มควบคุมลดลง ในขณะที่จากผลการวิจัยเชิงปริมาณจากโครงการวิจัยนี้ พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจเลิกสารเสพติดคือ ความยืดหยุ่นในชีวิต ความผูกพันใกล้ชิดกับเพื่อน และความภาคภูมิใจในตนเอง ทั้งนี้ในการนำโปรแกรม ACT ไปใช้จริงในพื้นที่ พบว่า “โปรแกรม ACT เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถนำมาต่อยอดกับหลักสูตรอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกิจกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้การใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ซึ่งจะทำให้เกิดการเรียนรู้ที่มีการจดจำได้ดี” เรือเอก ศรวิษฐ์ บุญประชุม โรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ไว้ ขณะที่ พว.ปทุมรัตน์ เกตุเล็ก พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นผู้บำบัดการใช้สารเสพติด ให้ความเห็นเสริมว่า “โปรแกรม ACT ช่วยสนับสนุนให้ผู้เข้ารับการบำบัดสามารถแก้ปัญหา พึ่งพาตนเองได้ สู้กับวิกฤตอย่างมีความพร้อมมากขึ้น มีความยืดหยุ่นในชีวิตมากขึ้น เปิดใจยอมรับ และมีมุมมองความคิดที่เปลี่ยนไป มีการตั้งเป้าหมายในชีวิต ทำให้มีความกระตือรือร้นที่จะมาบำบัดมากขึ้น และรับผิดชอบต่อพันธะสัญญาที่ให้ไว้กับผู้บำบัดอย่างจริงจัง”

ด้าน ทพ.จเร วิชาไทย ผู้จัดการ สวรส. ให้ความเห็นต่อประเด็นงานวิจัยว่า “การแก้ปัญหาไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม จำเป็นต้องเข้าใจลักษณะของกลุ่มเป้าหมายในมิติต่างๆ ให้มากที่สุด เช่น กลุ่มเยาวชนหรือวัยรุ่น เรามักจะพบว่าเป็นกลุ่มที่ขาดการยับยั้งชั่งใจ โดยการตัดสินใจส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากอารมณ์มากกว่าเหตุผล ซึ่งหากมองในด้านกายภาพ สมองส่วนหน้าของวัยรุ่นซึ่งเป็นส่วนควบคุมและประมวลความคิดเชิงระบบหรือการคิดเชิงตรรกะยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ โดยจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่ออายุ 20-25 ปี แต่ขณะที่สมองส่วนที่ทำงานเกี่ยวกับอารมณ์ พฤติกรรมจะพัฒนาเร็วกว่า ดังนั้นวัยรุ่นจึงมีความต้องการมากจากสิ่งเร้าต่างๆ ทั้งความต้องการทางเพศ การเสพติดอะไรบางอย่าง และมีความต้องการการยอมรับจากเพื่อน ซึ่งมีความเสี่ยงที่อาจตกไปอยู่ในวงจรของยาเสพติดได้ง่าย นอกจากนี้ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการใช้สารเสพติดของเยาวชน เช่น ปัญหาการดูแลและความรุนแรงในครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนและคนในชุมชน เช่น กรณีการถูกกลั่นแกล้งจากคำพูด หรือพฤติกรรมที่ก้าวร้าว (Bully) อาจส่งผลให้เยาวชนที่ถูกกระทำ มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ฯลฯ ทั้งนี้เยาวชนอายุ 12-17 ปี มักเริ่มต้นด้วยการดื่มแอลกอฮอล์ และอายุ 18-25 ปี จะมีทั้งดื่มแอลกอฮอล์และติดยาเสพติด ดังนั้นกรอบทิศทางการวิจัยเพื่อดูแลและช่วยเหลือเยาวชนที่ใช้สารเสพติดให้กลับสู่สังคม จำเป็นต้องพัฒนาความรู้เพื่อส่งต่อไปให้ถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายและมาตรการต่างๆ ในระดับพื้นที่ และควรมีการพัฒนาระบบการดูแลและบำบัดรักษาที่กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงบริการได้ ทั้งในเรื่องของสุขภาพ จิตใจ และสังคม โดยควรมีการจัดบริการทั้งในโรงเรียนและชุมชน หรืออาจมีการพัฒนาแอปพลิเคชันมาเป็นตัวช่วยในการให้บริการ เนื่องจากกลุ่มเยาวชนมีพฤติกรรมการใช้มือถืออย่างชัดเจน ตลอดจนควรเน้นการทำงานซึ่งรวมถึงทิศทางการจัดสรรงบประมาณให้กับกลุ่มวัยรุ่นตอนต้นและตอนกลาง เพื่อเป็นการป้องกันก่อนที่จะเกิดปัญหาต่างๆ นอกจากนี้ควรมีการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการจัดการเชิงระบบ เช่น การพัฒนาระบบข้อมูลทั้งด้านการส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟู การมีหน่วยงานกลางเพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการ ประสาน และเชื่อมต่อ การพัฒนาโปรแกรมและติดตามข้อมูลทางระบาดวิทยา ฯลฯ และทั้งหมดควรเป็นการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจากการมีส่วนร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อให้เกิดเครือข่ายทางด้านวิชาการ และเกิดงานวิจัยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง

นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผู้อำนวยการ สวรส. กล่าวในช่วงท้ายของการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ว่า “แม้ว่าปัญหาต่างๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์และลักษณะของสังคม แต่สำหรับปัญหายาเสพติด ยังคงเป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนของทุกรัฐบาล ที่หน่วยงานด้านวิชาการมีหน้าที่ต้องพัฒนาองค์ความรู้เพื่อสนับสนุนนโยบายให้เกิดการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้การวิจัยเพื่อพัฒนาเยาวชนกลุ่มเปราะบางของ สวรส. เป็นการดำเนินงานที่ตอบสนองนโยบายประเทศและยุทธศาสตร์การปฏิรูประบบการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งเป็นโจทย์ท้าทายของสังคมปัจจุบัน ที่ต้องเร่งพัฒนาให้เกิดทั้งสังคมสูงวัย สังคมคุณภาพและความมั่นคง การปฏิรูปด้านสาธารณสุข รวมถึงการปฏิรูประบบสุขภาพของกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาส ซึ่งเยาวชนส่วนหนึ่งเข้าข่ายเป็นกลุ่มเปราะบางที่ตกอยู่ในวงจรขาดความรู้

โต บางแค ………… เรียบเรียง / หมู บางแสน ………… รายงาน

Continue Reading
Advertisement
ข่าวเด่น1 วัน ago

เปิดแล้ว.. มหกรรมอาหารริมทาง (Chonburi Street Food Festival) ของดี ของอร่อย ในจังหวัดชลบุรี มารวมอยู่ที่ เซ็นทรัล ศรีราชา..

สังคมทั่วทิศ4 วัน ago

สุดยอดครูนักพัฒนา..ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ลงมือตัดผมฟรี ให้กับนักเรียนด้วยตัวเอง เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระให้กับผู้ปกครอง..

ข่าวเด่น3 สัปดาห์ ago

สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง  จัดกิจกรรม Let’s Zero Together ปลูก เพื่อ (ลด) สู่อนาคตที่ยั่งยืน ประจำปี 2567..

เศรษฐกิจ3 สัปดาห์ ago

ท่าเรือแหลม​ฉบัง จัดประชุมรับฟังความเห็นประชาชนในชุมชนรอบท่าเรือฯ..

เศรษฐกิจ3 สัปดาห์ ago

PDPC เพิ่มช่องทางบริการสู่ภูมิภาค เปิดศูนย์บริการรับเรื่องร้องเรียนการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลสู่พื้นที่ จ.ชลบุรี

Advertisement

Copyright © 2020 ChonburipostOnline.Office 150/12 Village No.2 Surasak, Sriracha, Chonburi, 20110, Tel. 089 931 2068, Fax 038 328 438 Powered Tro BangKrea.