ข่าวเด่น
กรมศุลกากร ขานรับนโยบาย ปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า บูรณาการร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยึดบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 2 แสนชิ้น มูลค่า 33.07 ล้านบาท
ชลบุรีโพสต์ออนไลน์ (www.chonburipostonline.com)
โดยทีมข่าว “ โต บางแค ” โทร. 089 931 2068

นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระ ทรวงการคลัง นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (ปฏิบัติหน้าที่เลขานุ การรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์) นายพลนขชา จักรเพ็ชร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมแถลงข่าว “กรมศุลกากรขานรับนโยบายปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดบุหรี่ไฟฟ้าผ่านแดน กว่า 2 แสนชิ้น มูลค่า 33.07 ล้านบาท”
วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2568 นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระ ทรวงการคลัง นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (ปฏิบัติหน้าที่เลขานุ การรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์) นายพลนขชา จักรเพ็ชร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมแถลงข่าว “กรมศุลกากรขานรับนโยบายปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดบุหรี่ไฟฟ้าผ่านแดน กว่า 2 แสนชิ้น มูลค่า 33.07 ล้านบาท” โดยมี นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายดิเรก คชารักษ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรีผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่ง ชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการดำรวจภูธรภาค 2 ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี




ตามนโยบายรัฐบาลโดยการนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานภาครัฐบูรณาการความร่วมมือเดินหน้าปราบปราม หยุดยั้งการลักลอบผลิต นำเข้าหรือจำหน่ายเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิด โดยให้เร่งดำเนินการจับกุมและเร่งสร้างภูมิคุ้มกันในการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนให้แล้วเสร็จภายใน 30 นั้น
กรมศุลกากร โดย สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และ กองสืบสวนและปราบปราบปรามกรมสอบ สวนคดีพิเศษ สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง และตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับกันตรวจ สอบตู้สินค้าผ่านแดน จำนวน 1 ผู้คอนเทนเนอร์ ณ ท่าเรือ LCMT (A0) สำนักงานศุลกากากรท่าเรือแหลมฉบัง ประเทศต้นทางจาก CHINA ส่งไปยังประเทศ Myannar นำเข้าสินค้าผ่านท่าเรือแหลมฉบัง และจะไปทำการตรวจปล่อยที่ด่านศุลกากรแม่สอด สำนักงานศุลกากรภาคที่ 3 โดยสำแดงสินค้าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ส่วนประกอบรถยนต์ เครื่องจักรและอื่น ๆ จำนวน 1,173 กล่อง ผลการตรวจสอบพบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง 6,000 ชิ้น มูลค่า 1,200,000 บาท น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 6,000 ชิ้น มูลค่า 900,000 บาท หัว พ็อดบุหรี่ไฟฟ้าที่ภายในบรรจุน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า190,100 ชิ้น มูลค่า 28,515,00 บาท และเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 8,200 ชิ้น มูลค่า 2,460,000 บาท รวมทั้งหมด 210,300 ชิ้น มูลค่ารวม 33,075,000 บาท ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และเป็นของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง สินค้าต้องห้ามนำผ่านราขอาณาจักร พ.ศ. 2559 ประกอบประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากูไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้าในราชอาณาจักร พ.ศ.2557







สำหรับของกลางที่ตรวจยึดได้ดังกล่าวกรมศุลกากรจะได้ประเมินราคาเพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อดำเนินคดี โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้เร่งทำการสืบสวนสอบสวนและขยายผลไปยังตัวการ ผู้ใช้และผู้สนับสนุน ภายได้การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการพิเศษอย่างเด็ดขาด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนต่อไป
ทีมข่าวเฉพาะกิจ ชลบุรีโพสต์ ออนไลน์ ……………….. รายงาน
