Connect with us

เศรษฐกิจ

อุตสาหกรรม จับมือ Nedo โชว์ต้นแบบการจัดการซากรถยนต์ครบวงจร

หนังสือพิมพ์ชลบุรีโพสต์ออนไลน์ (www.chonburipostonline.com) โดยทีมข่าว “โต บางแค” โทร. 089 931 2068

กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับองค์การ NEDO โชว์บิ๊กโปรเจกต์ครั้งสำคัญของประเทศดัน “โครงการรีไซเคิลชิ้นส่วนรถยนต์เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ” (End of Life Vehicle : ELV Project) เน้นการบริหารจัดการซากรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งนำอุตสาหกรรมไทยสู่ BCG โมเดลอย่างมีศักยภาพ ตอบโจทย์เป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

ewffewfewfewfee

เนื่องจากรัฐบาลได้กำหนดแนวทางโมเดลเศรษฐกิจใหม่ที่เรียกว่า “BCG” หรือ Bio-Circular-Green Economy เศรษฐกิจชีวภาพ – เศรษฐกิจหมุนเวียน -เศรษฐกิจสีเขียว เป็นแนวทางหลักในการพัฒนายกระดับอุตสาหกรรมไทย ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นแผนงานที่กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญ สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการใช้รถ EV ที่ได้มีการตั้งเป้าหมายการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าภายในปี พ.ศ.2573 ไว้ที่ 30% ของการผลิตรถยนต์ในไทย  เพื่อเป้าหมายในการลดมลพิษสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ทั้งนี้ การจะนำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้อย่างเต็มรูปแบบนั้น  ส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่กระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมควบคู่กันไป คือการคำนึงถึงการบริหารจัดการชิ้นส่วนรถยนต์หมดอายุใช้งานอย่างครบวงจรเพื่อลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งการจะเปลี่ยนมาใช้รถ EV ตามแผนที่วางไว้นั้น จำเป็นต้องมองถึงการจัดการซากรถเก่าที่จะเกิดขึ้นและอาจส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมในอนาคต ซึ่งเป็นไปตามแนวทาง Circular Economy เศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยการนำวัสดุชิ้นส่วนต่างๆ กลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด

วันนี้ ( 22 มี.ค.) กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมมือกับ องค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น(NEDO) จัดพิธีเผยแพร่ผลสำเร็จและเยี่ยมชมสถานที่ ELV ที่ดำเนินการรีไซเคิลชิ้นส่วนรถยนต์เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และทรัพยากรธรรมชาติ หรือ ELV Project เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญ ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของประเทศ ไปสู่ BCG โมเดลอย่างมีศักยภาพ และเกิดผลในเชิงปฏิบัติจริงอย่างเป็นรูปธรรม  ที่โรงแรมโอ๊ควูด แอนด์ เรสสิเด้นท์ ศรีราชา จ.ชลบุรี

นายภานุวัฒน์  ตริยางกูรศรี  รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะทำงานศึกษาแนวทางการจัดการซากรถยนต์ กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากสถิติจำนวนรถจำแนกตามอายุรถทั่วประเทศ กรมการขนส่งทางบก ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ปัจจุบันประเทศไทย มีรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 20 ปี ทุกประเภท รวม 5,688,384 คัน ซึ่งภาครัฐได้ให้ความสำคัญเรื่องการจัดการซากรถยนต์อย่างถูกวิธี ดังนั้นกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และองค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (NEDO) จึงผลักดันโครงการรีไซเคิลชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ (End of Life Vehicle) หรือ ELV โปรเจกต์  โดยได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2562  และถือได้ว่าเป็นก้าวที่สำคัญของประเทศในการบริหารจัดการซากรถยนต์อย่างเป็นรูปธรรมและถูกหลัก โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันทั้งไทยและญี่ปุ่น และได้รับความร่วมมือจากบริษัท Toyota Tsusho Corporation ประเทศญี่ปุ่น ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายงานจากองค์การ NEDO ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีร่วมกัน เพื่อสาธิตการนำเครื่องตัดซากรถยนต์มาใช้ที่โรงงาน กรีน เมทัลส์ (ประเทศไทย) ซึ่งถือว่าเป็นการนำเครื่องจักรประเภทนี้มาใช้เป็นครั้งแรกในประเทศ และนับว่าเป็นการจัดการซากรถยนต์อย่างถูกวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  ในส่วนของกระบวนการจัดการซากรถยนต์จะเป็นการดำเนินการอย่างครบวงจร  จะเริ่มตั้งแต่การรวบรวมรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งาน (ELV) การรื้อชิ้นส่วนยานพาหนะ  ตลอดจนการกำจัดของเสียที่เกิดขึ้นจากยานพาหนะ ซึ่งส่วนต่าง ๆ เหล่านี้หากไม่ได้รับการดำเนินการที่ถูกต้องจะส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และไม่เกิดการใช้ประโยชน์จากชิ้นส่วนซากอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง ELV โปรเจกต์ จะผลักดันให้เกิดการรีไซเคิลและหมุนเวียนทรัพยากร เกิดเป็นชิ้นส่วนที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม อาทิ เหล็ก ยาง พลาสติก และโลหะมีค่าที่สกัดได้จากชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์  

ปัจจุบันโรงงาน กรีน เมทัลส์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นโรงงานต้นแบบ ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 3 จังหวัดชลบุรี มีการตั้งเป้าการกำจัดซากชิ้นส่วนให้ได้สูงสุด 20 คันต่อวัน เทียบเป็นน้ำหนักของชิ้นส่วนมากกว่า 25 ตัน เพื่อใช้เครื่องจักรในการรื้อถอนให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถดึงเอาทรัพยากรที่มีค่าออกมาได้อย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้  ELV โปรเจกต์ จึงเป็นการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมไทยภายใต้ยุค New Normal ที่ชูแนวทางเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG ซึ่งบูรณาการการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ได้อย่างยั่งยืน

โต บางแค …………. เรียบเรียง / สุรศักดิ์ ศรีนันทวงศ์ ………………….. รายงาน

Continue Reading
Advertisement
Advertisement

Copyright © 2020 ChonburipostOnline.Office 150/12 Village No.2 Surasak, Sriracha, Chonburi, 20110, Tel. 089 931 2068, Fax 038 328 438 Powered Tro BangKrea.