กลุ่มไทยออยล์ ผนึกกำลัง 4 สมาคมกีฬา ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ สร้างพลัง Soft Power หนุนศักยภาพไทยสู่เวทีโลก..

นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วย พล.อ.เจริญ นพสุวรรณ เลขาธิการสมาคมกีฬาทางน้ำ นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศ นายณัฐวุฒิ เรืองเวส นายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย นายไมตรี คงเรือง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกลุ่มไทยออยล์ ตัวแทนนักกีฬา และนายกสมาคมสื่อมวลชนศรี แขกผู้เกียรติ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องออดิทอเรียม อาคารหอประชุมไทยออยล์

วันที่ 1 ตุลาคม 2567 นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วย พล.อ.เจริญ นพสุวรรณ เลขาธิการสมาคมกีฬาทางน้ำ นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศ นายณัฐวุฒิ เรืองเวส นายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย นายไมตรี คงเรือง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกลุ่มไทยออยล์ ตัวแทนนักกีฬา และนายกสมาคมสื่อมวลชนศรี แขกผู้เกียรติ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องออดิทอเรียม อาคารหอประชุมไทยออยล์

นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์หรือ Soft Power ของประเทศ ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมการพัฒนาด้านกีฬาอย่างเป็นระบบ จึงได้ขอความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนที่มีศักยภาพในการสนับสนุนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการพัฒนากีฬาของประเทศไทยให้สู่ระดับสากล

อีกทั้ง เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายดังกล่าว บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้มีการสนับสนุนสมาคมกีฬาจำนวน 4 สมาคม รวมเป็นเงิน 15 ล้านบาทต่อปี เป็นระยะเวลา 4 ปี (2567-2570) ประกอบด้วย สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวนเงิน 5 ล้านบาท/ปี สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย จำนวนเงิน5 ล้านบาท/ปี สมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย จำนวนเงิน3 ล้านบาท/ปี และสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย จำนวนเงิน2 ล้านบาท/ปี

โดยบริษัทฯ ได้มีการลงนามร่วมกับคณะรัฐมนตรีและสมาคมที่เกี่ยวข้องไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อร่วมมือกับสมาคมกีฬาในการร่วมพัฒนานักกีฬาและวงการกีฬาไทยสู่ระดับสากล อีกทั้งทางสมาคมฯยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนบริเวณพื้นที่รอบโรงกลั่นไทยออยล์ผ่านกิจกรรมกีฬาให้แก่ชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของไทยออยล์ในการ “สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน” เพื่อพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาและการส่งเสริมวงการกีฬาไทย จะนำไปสู่ความสำเร็จในการแข่งขันระดับนานาชาติ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยต่อไป

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้มีการสนับสนุนการกีฬาฟุตบอลโดยบริษัทฯ ได้ร่วมกับ สโมสร พีทีที อะคาเดมี และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดำเนินโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมให้กับเยาวชนและผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอล ตั้งแต่ปี 2561- ปัจจุบัน โดยมุ่งเน้น ส่งเสริมทักษะและเทคนิคการเล่นกีฬาฟุตบอล พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน และผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอลในพื้นที่แหลมฉบัง ได้ฝึกฝน เทคนิค และวิธีการเล่นฟุตบอลที่ถูกวิธี ตามหลักมาตรฐานสากล

นอกเหนือจากนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับสโมสรฟุตซอล บลูเวฟ ชลบุรี ในการต่อยอดพัฒนาโครงการที่เกี่ยวกับด้านกีฬาฟุตซอลของเยาวชนในพื้นที่แหลมฉบัง จึงนำมาสู่โครงการ “ไทยออยล์ปั้นฝันเยาวชนสู่ความเป็นหนึ่ง เพื่อพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอล” ซึ่งดำเนินโครงการฯ ต่อเนื่องมาสู่ปีที่ 7 (2560-2567) โดยในแต่ละปี สโมสรฟุตซอล บลูเวฟ ชลบุรี จะจัดส่งผู้ฝึกสอนนักกีฬาฟุตซอลทีมชาติชื่อดังระดับมืออาชีพ มาฝึกสอนทักษะการเล่นกีฬาฟุตซอลให้กับนักกีฬาเยาวชนในพื้นที่แหลมฉบัง เพื่อเสริมสร้างทักษะความรู้ ความสามารถ และเทคนิคต่างๆ รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนมุ่งมั่นฝึกฝนตนเองสู่การเป็นนักกีฬาฟุตซอลมืออาชีพต่อไป

โต บางแค…………….. รายงาน